พี่ๆ ช่างและ SI ทุกท่านเคยเจอปัญหานี้ไหมครับ? วางระบบมาอย่างดี อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม แต่สุดท้ายต้องมาปวดหัว เสียเวลา และเสียชื่อเสียง เพราะเลือก "สาย LAN" ผิดเส้นเดียว
วันนี้เราจะมาเปิด 5 สัญญาณซวย ที่เป็นเหมือนฝันร้ายของคนทำงานหน้างาน เพื่อให้พี่ๆ ทุกท่านเช็กให้ชัวร์ก่อนจะเสียเวลาไปมากกว่านี้
1. สายเปราะบาง ขาดในง่ายเกิ๊น! ดึงสายออกจากกล่องยังไม่ทันสุดเส้น อ้าว...สายขาดในซะแล้ว! สาย LAN ราคาถูกมักใช้ตัวนำคุณภาพต่ำ แค่ดึงแรงหน่อย หรือเจอมุมหักแคบๆ ก็พร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ ทำให้ต้องเสียเวลามาไล่เช็กทีละจุดว่าเสียตรงไหน
2. ดึงสายออกจากกล่องยาก สายพันกันจนหงุดหงิด เวลาหน้างานคือทองคำ! แต่ต้องมาเสียไปกับการแก้สาย LAN ที่พันกันในกล่อง เพราะการจัดเรียงสายที่ไม่ดี นี่คือต้นทุนที่มองไม่เห็นที่ทำให้งานล่าช้าและน่ารำคาญใจสุดๆ
3. เข้าหัวยาก ตัวนำไม่เต็ม พยายามเข้าหัว LAN (RJ45) เท่าไหร่ก็ไม่แน่นซักที เพราะขนาดของไส้ทองแดงที่ไม่ได้มาตรฐาน เล็กกว่าปกติ ทำให้หน้าสัมผัสไม่ดี เป็นสาเหตุหลักของปัญหา Packet Loss หรือสัญญาณติดๆ ดับๆ
4. เทสต์ด้วยเครื่องเทสต์แล้ว "ไม่ผ่าน!" นี่คือจุดที่เจ็บปวดที่สุด! เดินสายไปเป็นร้อยเมตร พอเอาเครื่องมาเทสต์กลับขึ้น "FAIL" เพราะสายคุณภาพต่ำไม่สามารถทำความเร็วได้ตามสเปก CAT 6 จริง สุดท้ายต้องรื้อสายใหม่ทั้งหมด ขาดทุนทั้งเวลาและแรงงาน
5. ลูกค้าโทรตามหลังส่งงาน ส่งงานไปไม่ถึงเดือน ลูกค้าโทรกลับมาบ่น "ทำไมเน็ตช้า" "ทำไมกล้องวงจรปิดติดๆ ดับๆ" ปัญหาเหล่านี้ทำลายความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของเราในระยะยาว
ทางออกของมืออาชีพ: เลือกใช้สาย LAN ที่ได้มาตรฐานอย่าง LINK UTP CAT 6 ที่ผลิตจากทองแดงแท้ 99.99% ผ่านการรับรองจากสถาบันระดับโลก พร้อมการรับประกันคุณภาพนานถึง 30 ปี ทำงานครั้งเดียวจบ ไม่ต้องกลับไปแก้หน้างานให้เสียเวลา
👉 ไม่อยากเจอปัญหาเหล่านี้หน้างานใช่ไหม? ปรึกษาเรื่องสเปกสาย LAN หรือขอใบเสนอราคาด่วน! แอด Line OA : @oknetworkshop
ร้านขายอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค สายแลน ตู้ Rack CISCO HP Switch oknetworkshop