👉 ภาพนี้คือระบบ เดินสายแบบ Structured Cabling ครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่ Backbone → Rack → Patch Panel → Face Plate → End Device พร้อม Option สำหรับ Indoor + Outdoor และเครื่องมือทดสอบครับ
จากภาพ CAT 6 Cabling Solutions (UTP Indoor & Outdoor) ผมสรุปวิธีการเดินสายออกมาเป็นขั้นตอนชัด ๆ ดังนี้:
🔹 1. สายหลัก (Backbone Cabling)
ใช้สาย US-9116LSZH (CAT 6 UTP Ultra 600 MHz, LSZH, White) เดินภายในอาคารเป็น Backbone
ถ้าต้องการเดินภายนอกอาคาร ใช้สาย US-9106OUT (Outdoor Cable)
🔹 2. อุปกรณ์รวมสาย (Rack & Patch Panel)
ติดตั้ง Rack (CH-606/42Q5) สำหรับรวมอุปกรณ์เครือข่าย
ภายในมี:
Patch Panel (US-3124A, 24 Port) สำหรับรวมสายหลักจากแต่ละชั้น
อุปกรณ์เสริม เช่น PDU, Fan, Shelf, Slide Rail เพื่อจัดการระบบให้สะดวกและปลอดภัย
🔹 3. การเชื่อมต่อใน Rack
Backbone Cable → เข้าสู่ Patch Panel
จาก Patch Panel → เชื่อมต่อเข้าสู่ Switch/Router ด้วย Patch Cord (US-5101LZ-X, US-5102LZ-X, US-5103LZ-X) ความยาว 1–3 เมตร
🔹 4. การกระจายสายไปยังจุดใช้งาน (Horizontal Cabling)
จาก Patch Panel → เดินสายไปยัง Face Plate (US-2002AWH / US-2001AWH) ที่ติดตามผนังหรือโต๊ะทำงาน
ติดตั้ง Modular Jack (US-1006SL, CAT 6 RJ45 Jack) ใน Face Plate
🔹 5. การเชื่อมต่อปลายทาง (Work Area)
ผู้ใช้งานเชื่อมต่ออุปกรณ์ (PC, Access Point, IP Phone) ผ่าน Patch Cord CAT 6 ที่เสียบจาก Face Plate
สามารถใช้ US-1002A (CAT 6 RJ45 Plug) เข้าหัวสายตรงสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ผ่าน Face Plate ได้
มีอุปกรณ์เสริมเช่น US-6E20A (Crystal Locking Plug Boot) เพื่อกันหลุดและเพิ่มความทนทาน
🔹 6. เครื่องมือและการทดสอบ (Tool & Tester)
ใช้เครื่องมือ TL-110R, TL-3116, US-8061 สำหรับเข้าหัวสายและจัดการระบบ
ใช้ TX-1302A Tester สำหรับตรวจสอบและทดสอบคุณภาพสัญญาณของสายที่ติดตั้งเสร็จ
📌 สรุปเส้นทางการเดินสาย
MDF/Server Room (Rack) → Backbone Cable (CAT 6 UTP) → Patch Panel
Patch Panel → Switch (ผ่าน Patch Cord)
Patch Panel → Face Plate (ผ่านสายแนวนอน + RJ45 Jack)
Face Plate → Patch Cord → อุปกรณ์ปลายทาง (PC, IP Phone, AP)